- รู้จัก BEM
- คณะกรรมการบรรษัทภิบาล บริหารความเสี่ยง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ประธานกรรมการบรรษัทภิบาล บริหารความเสี่ยง
และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

กรรมการบรรษัทภิบาล บริหารความเสี่ยง
และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

กรรมการบรรษัทภิบาล บริหารความเสี่ยง
และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

กรรมการบรรษัทภิบาล บริหารความเสี่ยง
และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
รายงานคณะกรรมการบรรษัทภิบาล บริหารความเสี่ยง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
คณะกรรมการบรรษัทภิบาล บริหารความเสี่ยง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน (“คณะกรรมการบรรษัทภิบาลฯ”) โดยการแต่งตั้งของคณะกรรมการบริษัท ประกอบด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 4 คน โดยมี ศ. (พิเศษ) อรรถพล ใหญ่สว่าง ซึ่งเป็นกรรมการอิสระเป็นประธานกรรมการบรรษัทภิบาลฯ นางวัลลภา อัสสกุล นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล และ ดร.สมบัติ กิจจาลักษณ์ เป็นกรรมการบรรษัทภิบาลฯ เพื่อทำหน้าที่ดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี พร้อมทั้ง พิจารณาแผนบริหารความเสี่ยง กระบวนการและกลยุทธ์ที่ใช้ในการบริหารความเสี่ยง เพื่อจัดการความเสี่ยงโดยรวมของบริษัทให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ และพัฒนาระบบการบริหารความเสี่ยงของบริษัทอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกำหนดแผนการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กรในภาพรวมเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจที่จะต้องปรับตัวและพัฒนาตนเองเพื่อให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ในปี 2567 คณะกรรมการบรรษัทภิบาลฯ ได้มีการประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารระดับสูงรวมทั้งสิ้นจำนวน 3 ครั้ง โดยกรรมการบรรษัทภิบาลฯ แต่ละคนได้เข้าประชุมตามรายละเอียด ดังนี้ (1) ศ. (พิเศษ) อรรถพล ใหญ่สว่าง (เข้าร่วมประชุม 3/3 ครั้ง) (2) นางวัลลภา อัสสกุล (เข้าร่วมประชุม 2/3 ครั้ง) (3) นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล (เข้าร่วมประชุม 3/3 ครั้ง) และ (4) ดร.สมบัติ กิจจาลักษณ์ (เข้าร่วมประชุม 3/3 ครั้ง)
คณะกรรมการบรรษัทภิบาลฯ ได้ปฏิบัติหน้าที่และให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายจัดการในการกำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานตามแผนงาน โดยสรุปสาระสำคัญการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบรรษัทภิบาลฯ ประจำปี 2567 ได้ดังนี้
1. ด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ติดตามและทบทวนหลักเกณฑ์การประเมินการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียน และพิจารณากรอบการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืน และได้นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาทบทวนและปรับปรุงนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี และกำหนดนโยบายเพิ่มเติม เพื่อยกระดับการกำกับดูแลให้ครอบคลุมถึงประเด็นความยั่งยืนและเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การยอมรับและแข่งขันในระดับสากล ดังนี้
- ทบทวนกฎบัตรคณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการบรรษัทภิบาลฯ เพื่อให้มีการกำกับดูแล และติดตามการดำเนินงานโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมทั้งพัฒนากระบวนการในการดูแลผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจของบริษัท เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงพัฒนากระบวนการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ พนักงาน รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจของบริษัท
- ทบทวนและปรับปรุงนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ เพื่อให้ธำรงไว้ซึ่งการรักษาความลับของข้อมูล ความถูกต้อง ครบถ้วน และความสมบูรณ์พร้อมใช้
- ทบทวนนโยบายการเปิดเผยข้อมูล/สารสนเทศ เพื่อให้มีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญของบริษัท ทั้งข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลที่มิใช่ข้อมูลทางการเงินอย่างถูกต้อง ครบถ้วน เพียงพอ และภายในเวลาที่เหมาะสม
- กำหนดแนวปฏิบัติด้านการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับคณะกรรมการ บุคลากร ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันมิให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนของการปฏิบัติงาน
- ทบทวนประสิทธิผลของจรรยาบรรณบริษัท เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยเห็นว่า จรรยาบรรณบริษัทยังคงมีประสิทธิผล สอดคล้องและครบถ้วนต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน
2. ด้านการบริหารความเสี่ยง
พิจารณาทบทวนและติดตามการดำเนินการตามแผนบริหารความเสี่ยงด้านต่างๆ ดังนี้
- ทบทวนนโยบายและแผนการบริหารความเสี่ยงองค์กร ติดตามและจัดการความเสี่ยง เพื่อให้สอดคล้องครอบคลุมประเด็นความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ การดำเนินงาน การเงิน การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล (ESG Risk) พร้อมการกำหนดมาตรการเพื่อบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ทั้งความเสี่ยงต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปัจจุบัน และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risk) เพื่อกำหนดในแผนการบริหารความเสี่ยง
- ติดตามและรายงานคณะกรรมการบริษัททราบผลการดำเนินการตามแผนบริหารความเสี่ยงประจำปี 2567 ซึ่งบริษัทสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ไม่พบสิ่งที่ก่อให้เกิดผลกระทบที่เป็นสาระสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท พร้อมทั้งเห็นชอบกับแผนบริหารความเสี่ยงประจำปี 2568 ซึ่งมีความเพียงพอ และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของธุรกิจในปัจจุบัน รวมทั้งมีแผนดำเนินการและวิธีการเพื่อบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม โดยได้ทำการประเมินระดับของผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท และโอกาสของการเกิดความเสี่ยงตามสถานการณ์ปัจจุบัน และที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต และกำหนดมาตรการในการจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมยอมรับได้
3. ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ติดตาม และพิจารณาการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท เพื่อให้มีการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน โดยคณะกรรมการบรรษัทภิบาลฯ ได้มีการดูแล ติดตามและรายงานคณะกรรมการบริษัททราบผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการพลังงานและทรัพยากร ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นการบริหารจัดการคู่ค้า ตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาศักยภาพคู่ค้า เพื่อลดความเสี่ยงจากคู่ค้าและผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัททั้งในระยะสั้นและระยะยาว บริษัทจึงได้กำหนดนโยบายการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานตามกรอบการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนตามแนวทางของ UN Global Compact เพื่อใช้เป็นกรอบในการบริหารจัดการคู่ค้าให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปตามเจตนารมณ์ของบริษัทที่คำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล ความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
ในปีที่ผ่านมาบริษัทยังคงได้รับผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทอยู่ในระดับดีเลิศ (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5) ผลการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมสมควรเป็นตัวอย่าง (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5) ผลการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ในระดับ AAA ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 อยู่ในทำเนียบ “บริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน” โดยได้รับประกาศนียบัตร ESG100 Company ประจำปี 2567 ได้รับรางวัลโล่ประกาศเกียรติคุณองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก (Climate Action Leading Organization : CALO) สาขาบริการประจำปี 2567 นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับรางวัล Thailand's Top Corporate Brand Hall of Fame 2024 หรือบริษัทที่มีมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุดในประเทศไทยติดต่อกัน 5 ปี ในหมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานภายใต้กรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี และกรอบการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนของบริษัท
บริหารความเสี่ยง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
( ศ. (พิเศษ) อรรถพล ใหญ่สว่าง )
ประธานกรรมการบรรษัทภิบาล
บริหารความเสี่ยง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
กิจกรรมเพื่อสังคม
บริษัท ในฐานะผู้ให้บริการทางพิเศษ และรถไฟฟ้า ด้วยความมุ่งมั่นดำเนินงานตามเจตนารมณ์ที่จะมีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนและคมนาคมแบบครบวงจร
ศูนย์บริการข้อมูลรถไฟฟ้า MRT
วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
BEM
- รู้จัก BEM
- เกี่ยวกับเรา
- เหตุการณ์สำคัญ
- ข้อมูลพื้นฐาน BEM
- ลักษณะการประกอบธุรกิจ
- สารจากประธานกรรมการบริษัท
- โครงสร้างองค์กร
- คณะกรรมการบริษัท
- คณะกรรมการตรวจสอบ
- คณะกรรมการสรรหาและกําหนดค่าตอบแทน
- คณะกรรมการบรรษัทภิบาล บริหารความเสี่ยง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
- คณะกรรมการบริหาร
- คณะผู้บริหาร
- การกํากับดูแลกิจการ
- คู่มือบรรษัทภิบาล
- วิสัยทัศน์และพันธกิจ
- เป้าหมายและกลยุทธ์ธุรกิจ
- นโยบายบริษัท
- กฎบัตรคณะกรรมการ
- ข้อบังคับบริษัท
- จรรยาบรรณบริษัท
- จรรยาบรรณนักลงทุนสัมพันธ์
- จรรยาบรรณธุรกิจสำหรับคู่ค้า
- ติดต่อเลขานุการบริษัท
- ศูนย์ข้อมูลส่วนบุคคล
- การแจ้งเตือนให้นําข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบ
- กิจกรรมเพื่อสังคม
ข่าวประชาสัมพันธ์
ร่วมธุรกิจกับ BEM
- พัฒนาเชิงพาณิชย์
- จัดซื้อจัดจ้าง
ร่วมงานกับ BEM
- ร่วมงานกับ BEM
สงวนลิขสิทธิ์ © พ.ศ.2561 บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
Member of , APTA and COMET





BANGKOK MRT
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
ตอบรับไลฟ์สไตล์คนเมืองด้วยแอปพลิเคชัน Bangkok MRT ทำให้วางแผนการเดินทางเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้วสำหรับคุณ มีครบทั้งข้อมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง เช่น แผนที่เส้นทางรถไฟฟ้า แผนผังบริเวณสถานี สิ่งอำนวยความสะดวก ข่าวสารและกิจกรรม พร้อมทั้งฟังก์ชันต่างๆ ให้คุณเลือกใช้อีกเพียบ...